วัดศาลเจ้า เป็นวัดเก่าแก่อีกวัดหนึ่งของเมืองปทุม ตั้งอยู่ ต.กลาง อ.เมือง จ.ปทุมธานี มีอาณาเขตติดต่อกับวัดมะขาม เป็นที่ราบลุ่มรอมแม่น้ำเจ้าพระยาและคลองเชียงราก ประวัติความเป็นมาของวัดศาลเจ้าแห่งนี้ มีคำบอกเล่าแตกต่างกันออกไป บ้างกล่าวว่าสร้างขึ้นเมื่อประมาณ พ.ศ.2330 เนื่องจากตั้งอยู่ปากคลองศาลเจ้า จึงตั้งชื่อวัดตามทำเลที่ตั้ง และได้รับพระราชทานวิสุงคาสีมาเมื่อประมาณ พ.ศ.2333 แต่อีกตำนานเล่าขานกันต่อมาว่า วัดศาลเจ้า สร้างเมื่อปลายกรุงศรีอยุธยา โดยเจ้าน้อยมหาพรหม บุตรเจ้าเมืองฝ่ายเหนือ เป็นผู้มีวิชาไสยศาสตร์แก่กล้า ได้ล่องแพมาตามแม่น้ำเจ้าพระยา จนมาถึงวัดมะขามในและได้พบกับพระภิกษุเชื้อสายรามัญ นาม “พระอาจารย์รุ” ผู้เป็นที่เคารพศรัทธาของชาวบ้าน ทั้งสองได้ทดสอบวิชากัน เจ้าน้อยมหาพรหมเกิดความเคารพเลื่อมใสในวิทยาคมของพระอาจารย์รุ จึงขอสร้างวัดและศาลขึ้นตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งใจ แล้วตั้งชื่อว่าวัดศาลเจ้า คาดว่ามาจาก “ศาล” ที่สร้างขึ้นโดย “เจ้า”น้อยมหาพรม
อีกสิ่งหนึ่งที่ดึงดูดผู้คนให้เดินทางมาวัดศาลเจ้าแห่งนี้คือ การมากราบขอพร “เซียนแปะ โรงสี” , “เซียนแปะกิมเคย” หรือ “เซียนแปะโง้วกิมโคย” ฆราวาสชาวจีนผู้เรืองเวทย์ โดยส่วนใหญ่นิยมมาขอพรเรื่องการเงินการงาน การทำธุรกิจการค้าให้เจริญรุ่งเรือง เมื่อได้สมปรารถนาแล้วก็จะนำผลไม้ของไหวมงคลต่างๆ รวมถึงหุ่นจระเข้มาถวายเพื่อความเป็นสิริมงคล
ประวัติของ “เซียนแปะกิมเคย” มีบันทึกไว้ว่า “ท่านเกิดที่ประเทศจีน ย้ายเข้ามาอยู่เมืองไทยตั้งแต่ยังเด็ก เมื่อโตขึ้นท่านได้ประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไปและค้าข้าวเปลือก ต่อมาธุรกิจค้าข้าวเปลือกดีขึ้น ท่านได้ร่วมหุ้มกับโรงสีข้าวเปลือกที่ปากคลองบางโพธิ์ล่าง(ต.บางเดื่อ) และเมื่อสมรสจึงย้ายมาประกอบกิจการโรงสีไฟของตัวเองที่ปากคลองเชียงราก เยื้องกับวัดศาลเจ้า ในนามของ “โรงสีไฟทองศิริ” โอนสัญชาติมาเป็นสัญชาติไทย เปลี่ยนชื่อเป็น นายนที ทองศิริ อุปนิสัยของท่านเป็นคนโอบอ้อมอารี ชอบชี้แนะช่วยเหลือผู้อื่น ท่านเป็นกำลังหลักสำคัญในการบูรณะศาลเจ้าพ่อวัดศาลเจ้า แม้การคมนาคมขนส่งสมัยยังลำบากมาก แต่ท่านก็ไม่ย่อท้อร่วมแรงร่วมใจกับผู้มีจิตศรัทธาบูรณะศาลจนแล้วเสร็จ ด้วยความดีของ “เถ้าแก่กิมเคย” หรือ “แปะกิมเคย” ท่านจึงเป็นที่รักเคารพและศรัทธาของชาวบ้านในละแวกนั้นเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ท่านยังเป็นผู้กำหนดวันในการจัดงานประจำปีศาลเจ้าพ่อวัดศาลเจ้า คือ วันขึ้น 5 ค่ำ เดือน 1 จนถึงขึ้น 8 ค่ำ เดือน 1 4วัน 4คืน ซึ่งชาวจีนเรียกช่วงนี้ว่า “เจียง่วย ชิวโหงว ถึง เจียง่วย ชิวโป๊ย” และถือเป็นประเพณีตลอดมา
ด้านวิทยาคม เซียนแปะกิมเคย ท่านมีวิชาไล่ฝน ปรับเปลี่ยนดินฟ้าอากาศจากที่ฟ้ามืดครึ้มคล้ายฝนจะตกกลับกลายเป็นท้องฟ้าที่แจ่มใส เล่ากันต่อมาว่าท่านมีองค์ประทับอยู่ซึ่งคือองค์ของเจ้าพ่อวัดศาลเจ้านั้นเอง และเมื่อการคมนาคมสามารถเดินทางได้สะดวกขึ้น เซียนแปะกิมเคยมีลูกศิษย์ลูกหามากมาย ส่วนใหญ่จะขอให้ท่านช่วยชี้แนะเกี่ยวกับฮวงจุ้ย ทำเลที่ตั้งบ้าน ห้างร้าน บริษัท ท่านก็ช่วยชี้แนะทุกรายไปโดยไม่หวังผลตอบแทน ผู้ที่ท่านช่วยชี้แนะจะประสบความสำเร็จเจริญรุ่งเรืองเป็นที่รู้จักในวงการค้า เมื่อเวลาผ่านไปถึงวัยชราร่างกายผ่ายผอมหลังโค้งงอ แต่เซียนแปะกิมเคยก็ยังคงช่วยเหลือชี้แนะบรรดาลูกศิษย์อย่างที่เคยเป็นมา จนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต หลังเสร็จสิ้นพิธีศพของท่าน ครอบครัวและคณะศิษย์ได้จัดสร้างรูปเหมือนขนาดเท่าตัวจริง ตั้งเป็นที่สักการบูชา ณ ศาลานที ทองศิริ วัดศาลเจ้า วัตถุมงคลของเซียนแปะกิมเคย ที่ได้รับความนิยม คือ เหรียญรูปเหมือนรุ่นแรก สร้างปี พ.ศ. 2519 , เหรียญรูปเหมือนทรงหยดน้ำ, ล็อคเก็ต รูปเหมือน และ ผ้ายันต์ เป็นต้น
ตลาดริมวัดศาลเจ้าแห่งนี้มีบรรยากาศเรียบง่าย ไม่แออัด ร้านค้าส่วนใหญ่เป็นชาวบ้านในพื้นที่ เมื่อใครมาไหว้พระที่วัดศาลเจ้าหรือวัดมะขาม ก็ต้องมาฝากท้องกันที่ตลาดริมน้ำแห่งนี้ รับรองว่าถูกอกถูกใจนักชอปชิมชิลล์กันอย่างแน่นอน มีทั้งร้านขายอาหารไทยโบราณที่หาชิมได้ยาก อาทิ ห่อหมกปลาช่อนเนื้อแน่นเจ้าดัง ,ปลาตะเพียนต้มเค็ม,ปลาช่อน ปลาสลิดแดดเดียว ทอดร้อนๆ,แกงส้มมะรุมเครื่องแกงเข้มข้น,ปลาดุกย่าง สะเดา น้ำปลาหวาน,เต้าเจี้ยวหลน ปูหลน น้ำพริก ผักแกล้ม อีกทั้งเมนูของหวาน กล้วยปิ้งร้อนๆ,ขนมข้าวแต๋นน้ำแตงโม,ขนมครกกะทิหวานมัน,ขนมบ้าบิ่น,ขนมครกใบเตย,ขนมเบื้องโบราณ และ ผักผลไม้สดจากสวน แต่ที่ห้ามพลาดเลยก็คือ “กุ่ยช่ายเจ๊มล” มีให้เลือกหลากหลายไส้ ทั้งเผือก หน่อไม้ มันแกว มีทั้งแบบทอดและนึ่ง วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ใครอยากจะลองชิมก็ต้องต่อแถวเข้าคิวกันหน่อย
ก่อนกลับแวะกราบสักการะขอพร “เจ้าพ่อวัดศาลเจ้า” ที่ตั้งอยู่บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา และให้อาหารปลาที่ “วังมัจฉา” ซึ่งนี่ก็ใกล้วันตรุษจีนแล้ว ท่านใดที่กำลังมองหาที่เที่ยวไหว้พระเพื่อความเป็นสิริมงคล แหล่งของกินอร่อยๆ เหมาะสำหรับพักผ่อนหย่อนใจแบบไม่ต้องเดินทางไกล วัดศาลเจ้า จ.ปทุมธานี เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ “สมาคมฯชวนชิลล์” ขอแนะนำ
หน้าที่เข้าชม | 7,840 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 5,904 ครั้ง |
เปิดร้าน | 26 ธ.ค. 2560 |
ร้านค้าอัพเดท | 11 ก.ย. 2568 |